มนุษย์เรามี “อิสระ” จริงหรือไม่?
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่เราเรียกว่า “อิสระ” นั้นคืออิสระอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงภาพลวงตาที่เราสร้างขึ้นเพื่อปลอบใจตนเอง อิสระนั้นอยู่ที่ภายนอก หรืออยู่ในใจเรา? หรือแท้จริงแล้วสิ่งที่เราเรียกว่า “อิสระ” เป็นเพียงสิ่งสมมุติหนึ่ง ที่ทำให้เรายึดติดกับแนวคิดแห่งอิสระนั้นเสียเอง
หากเรายังต้องวิ่งไล่ตาม “ความเป็นอิสระ” ทั้งภายนอกและภายในอยู่ตลอดเวลา นั่นแปลว่าเรายังไม่เป็นอิสระเลยจริงหรือไม่?
เพราะตราบใดที่มนุษย์ยังต้องแสวงหาบางสิ่ง ย่อมแปลว่ามีบางสิ่งที่ยังขาดอยู่ และเมื่อเราคิดว่าเราได้พบอิสระแล้ว เหตุใดเราจึงยังแสวงหาอยู่อีกเล่า — หรือว่า “อิสระ” ที่เราคิดว่าพบนั้น ยังไม่ใช่ของแท้ที่ปลดเปลื้องเราได้อย่างสิ้นเชิง
นิสัย — เครื่องบ่งบอกความไม่อิสระของมนุษย์
สิ่งใดสะท้อน “ความเป็นคน” ของแต่ละคนได้ดีที่สุด?
คำตอบอาจอยู่ที่ “นิสัย” เพราะนิสัยคือสิ่งที่ติดตัวเรามาตลอดชีวิต เป็นเครื่องหมายของอัตลักษณ์ เป็นสิ่งที่ทำให้เราถูกจดจำ และแยกแยะออกจากผู้อื่น
แม้เราจะอธิบายว่ามันเกิดจากสภาพแวดล้อมหรือพันธุกรรม แต่เราก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “นิสัย” คือสิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในตัวเราอย่างลึกซึ้ง และเป็นส่วนหนึ่งของ “ตัวตน” ที่ยากจะเปลี่ยนแปลง
นิสัยเกิดจาก “รูปแบบความคิด” ที่เรายึดถือจนเป็นปกติ เป็นกรอบที่กำหนดว่าเราจะรู้สึก คิด หรือกระทำอย่างไรในแต่ละสถานการณ์ ดังนั้น หากมนุษย์ยังมีนิสัยเป็นของตนเอง ก็เท่ากับว่ามนุษย์ไม่ได้มีอิสระโดยสมบูรณ์ เพราะเราไม่อาจหลุดพ้นจากสิ่งที่กำหนดตัวเราเองได้
ถ้ามนุษย์มีอิสระจริง…
เราคงเปลี่ยนนิสัยของตัวเองได้ทุกเมื่อ เลือกได้ว่าวันนี้จะเป็นคนใจเย็น พรุ่งนี้จะเป็นคนเร่าร้อน หรือสัปดาห์หน้าจะเป็นคนเยือกเย็นเหมือนภูเขาน้ำแข็ง แต่ในความจริงนั้น เราเปลี่ยนไม่ได้ทั้งหมด — เราอาจควบคุมได้บ้าง แต่ไม่อาจหนีจากนิสัยของเราได้อย่างแท้จริง
เรามักจินตนาการว่า ถ้าเราเป็นคนอื่น เราคงมีชีวิตอีกแบบ แต่แม้ในจินตนาการนั้น เราก็ยังแอบใส่ “ตัวเรา” ลงไปในตัวคนอื่นอยู่ดี เพราะเราไม่อาจจินตนาการถึงตัวเองโดยปราศจาก “นิสัย” ที่เป็นตัวเราได้เลย
นี่เองคือหลักฐานว่า มนุษย์ไม่มีอิสระจากตัวตนของตนเอง
ตราบใดที่ยังมี “อัตตา” ย่อมไม่มีอิสระโดยแท้
ความคิดเห็นเปลี่ยนได้ แต่นิสัยยังคงเดิม
แม้มนุษย์จะเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงความคิดเห็นได้ตามประสบการณ์และความรู้ แต่สิ่งนั้นมิได้หมายความว่านิสัยของเราจะเปลี่ยนไปด้วย อาจเพียงแค่เรา “ควบคุม” นิสัยนั้นได้ดีขึ้น มีสติรู้เท่าทันความคิด ความรู้สึก และการกระทำของตนเอง
เด็กที่เคยหุนหันอาจกลายเป็นผู้ใหญ่ที่สุขุมขึ้น แต่ความเร่าร้อนภายในยังคงมีอยู่ เพียงแค่สติและประสบการณ์ทำให้เราควบคุมมันได้ดีขึ้นเท่านั้น
ดังนั้น ความคิดเห็นอาจเปลี่ยน — แต่นิสัยยังคงอยู่
และแม้เราจะสามารถเปลี่ยนมุมมองได้มากเพียงใด ก็ไม่ได้หมายความว่าเรามีอิสระทางความคิดอย่างแท้จริง เพราะความคิดของเราก็ยังคงดำเนินไปในกรอบเดิมของรูปแบบนิสัยที่เรามีอยู่
อิสระจากอัตตา หรืออิสระที่จะเป็นตัวเราเอง?
บางคนพยายามแสวงหา “อิสระจากอัตตา” — การหลุดพ้นจากตัวตน เพื่อเข้าถึงความว่างหรือความบริสุทธิ์ของจิต
แต่อีกด้านหนึ่ง มนุษย์ก็ต้องใช้อัตตานั้นในการดำรงชีวิต ทำหน้าที่ในโลก และสร้างประโยชน์ให้ตนเองและผู้อื่น
ดังนั้น ความอิสระที่มนุษย์แสวงหาในทางปฏิบัติ จึงอาจไม่ใช่อิสระจากอัตตาโดยสิ้นเชิง
แต่เป็น “อิสระที่จะเป็นตัวของตัวเอง” — อิสระในการแสดงออกตามนิสัย ความคิด และธรรมชาติของตน โดยไม่ถูกบีบคั้นหรือควบคุมจากผู้อื่น
แต่ถึงที่สุดแล้ว…
แม้เราจะรู้สึกว่าได้เป็น “ตัวของตัวเอง” อย่างเต็มที่
เราก็ยังคงอยู่ภายใต้กรอบของนิสัยที่เรามิได้เลือกจะมี และไม่อาจเปลี่ยนได้อย่างเสรี
ดังนั้น บางที “มนุษย์” อาจไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่มีอิสระอย่างแท้จริง —
แต่เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตที่ “ตระหนักถึงการไม่มีอิสระของตนเอง” เท่านั้น